จับประเด็นข่าวเด่น

เปิดเขตเศรษฐกิจพิเศษ: นัยยะต่ออุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับไทย

เมื่อวันที่ 16 มีนาคม 2558 ที่ผ่านมา ที่ประชุมบีโอไอได้กำหนดเขตเศรษฐกิจพิเศษเฟสแรกใน 5 จังหวัด ได้แก่ ตาก มุกดาหาร สระแก้ว ตราด และสงขลา โดยครอบคลุมกิจการเป้าหมาย 13 กลุ่ม ตามศักยภาพและข้อจำกัดของแต่ละพื้นที่ ซึ่งสิทธิพิเศษที่ผู้ลงทุนจะได้รับคือ ยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล 8 ปี และลดหย่อนภาษีเงินได้ 50% เพิ่มอีก 5 ปี นอกจากนี้ ยังผ่อนปรนเรื่องอายุของเครื่องจักรโดยอนุญาตให้ใช้เครื่องจักรที่มีอายุไม่เกิน 10 ปีได้ (จากเดิมต้องมีอายุไม่เกิน 5 ปี) แต่ต้องมีใบรับรองประสิทธิภาพเครื่องจักรจากสถาบันที่เชื่อถือได้ ขณะที่กิจการอื่นๆ ที่ไม่ได้เป็นกิจการในกลุ่มเป้าหมายก็สามารถยื่นขอรับการส่งเสริมเพื่อเข้าไปลงทุนได้เช่นกันแม้ว่าจะได้รับสิทธิพิเศษน้อยกว่ากิจการเป้าหมาย 13 กลุ่ม แต่ก็นับว่าได้ประโยชน์มากกว่าลงทุนในพื้นที่ทั่วไป

FTA ไทย - สหภาพยุโรป ตัวช่วยการส่งออกอัญมณีและเครื่องประดับของไทย

เมื่อวันที่ 1 มกราคม 2558 ที่ผ่านมานั้น หลายอุตสาหกรรมสินค้าส่งออกของไทยต้องได้รับผลกระทบจากการที่ไทยถูกตัดสิทธิ พิเศษทางภาษีศุลกากร (GSP) ของสหภาพยุโรปในทุกรายการสินค้าและต้องกลับไปเสียภาษีในอัตราปกติ (MFN) เนื่องจากไทยถูกจัดอันดับให้เป็นประเทศที่มีรายได้ปานกลางค่อนข้างสูง (Upper Middle Income Countries) ติดต่อกันเป็นเวลานาน 3 ปี ตรงกับเงื่อนไขการตัดสิทธิพิเศษทางภาษี (GSP Graduation) อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ โดยในส่วนของอุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับนั้นไม่ค่อยได้รับผลกระทบจาก มาตรการดังกล่าวมากนัก เนื่องจากสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับจากไทยถูกสหภาพยุโรปตัดสิทธิ GSP มาหลายปีแล้ว ซึ่งปัจจุบันสินค้ากลุ่มอัญมณีที่ส่งออกไปในตลาดยุโรปจะเสียภาษีศุลกากรในอัตราร้อยละ 2.5 และเครื่องประดับเสียภาษีศุลกากรในอัตราร้อยละ 4

ธนาคารกลางสวิสเลิกพยุงค่าเงินยูโร นัยยะต่อแนวโน้มราคาทองคำ และการส่งออกเครื่องประดับไทยไปยังยุโรป

จากการที่ธนาคารกลางสวิตเซอร์แลนด์ (SNB) ได้ประกาศยกเลิกเพดานการกำหนดอัตราแลกเปลี่ยนเงินฟรังก์ต่อเงินยูโร เมื่อวันที่ 15 มกราคมที่ผ่านมา จากเดิมที่เคยกำหนดให้แข็งค่าไม่เกิน 1.2 ฟรังก์ต่อยูโร นับตั้งแต่เดือนกันยายน 2554 การยกเลิกการกำหนดเพดานค่าเงินฟรังก์ดังกล่าวส่งผลกดดันให้ค่าเงินยูโรลดลง ต่ำสุดเกือบ 30% เมื่อเทียบกับเงินฟรังก์ สร้างความตกตะลึงแก่นักลงทุนในตลาดหุ้นทั่วโลก ซึ่งทำให้ตลาดหุ้นสวิสร่วงลงเกือบ 10% เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่าการแข็งค่าของเงินฟรังก์จะเป็นอุปสรรคต่อการส่ง ออกรวมถึงอุตสาหกรรมท่องเที่ยวของประเทศซึ่งลูกค้าส่วนใหญ่มาจากยุโรป พร้อมกันนี้ ธนาคารกลางสวิสยังได้ประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายจากเดิม -0.25% เป็น -0.75% เพื่อลดแรงจูงใจของนักลงทุนต่างชาติที่วางแผนจะนำเงินมาพักไว้ในสกุลฟรังก์ รวมถึงกระตุ้นการใช้จ่ายและการลงทุนภายในประเทศ

เราใช้คุกกี้ (Cookies) เพื่อใช้ในการปรับปรุงประสิทธิภาพเว็บไซต์ ท่านสามารถศึกษารายละเอียดการใช้คุกกี้ได้ที่ นโยบายคุกกี้   ตั้งค่า ยอมรับ

×
ชั้น 4 อาคารไอทีเอฟ ทาวเวอร์ เลขที่ 140 ถนนสีลมแขวงสุริยวงศ์ เขตบางรัก กรุงเทพมหานคร 10500
โทรศัพท์: 0 2634 4999 ต่อ 444
โทรสาร: 0 2634 4970